1. ต้นพุดซ้อนด่าง พุดซ้อนใบด่าง ไม้มงคล (สูง 15-20 ซม) - ChayTongAong
พุดซ้อน (Cape jasmine/Gardenia jasmine) หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ พุดจีน พุดใหญ่ อินถะหวา และเค็ดถวา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gardenia augusta (L.) Merr หรือ Gardenia jasminoides จัดอยู่ในวงศ์ Rubiaceae เช่นเดียวกับพุดน้ําบุศย์และเข็มป่า ต้นกําเนิดมาจากประเทศจีน ไทย ไต้หวัน และญี่ปุ่น เป็นไม้พุ่มสมุนไพร ดอกสีขาวสวย กลีบซ้อนเป็นชั้น กลิ่นหอมสดชื่น คนส่วนใหญ่จึงนิยมปลูกประดับบ้าน ประดับสวน แถมยังนําไปร้อยเป็นพวงมาลัยบูชาพระ และใช้เป็นดอกไม้ปักแจกันไหว้พระด้วย พุดซ้อนเป็นต้นไม้ที่มีความเป็นมงคลเหมือนกันกับพุด ว่ากันว่าถ้าหากปลูกติดไว้ที่บ้าน จะช่วยให้มีความเจริญ มั่นคง เนื่องจากคําว่า พุด หมายถึง ความสมบูรณ์ แข็งแรง ยิ่งไปกว่านั้นยังสื่อถึงความบริสุทธิ์ เนื่องจากดอกพุดซ้อนมีสีขาวสะอาดและบานใหญ่ โดยเคล็ดมงคลเกี่ยวกับต้นพุดหรือพุดซ้อน แนะนําให้ปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ที่สําคัญควรปลูกในวันเสาร์และให้ผู้ชายเป็นคนปลูก พุดซ้อนใบด่างนี้ เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ทรงกลมหนาทึบ ไม่ผลัดใบ มีเอกลักษณ์ที่สีของใบจะมีความด่างเขียวสลับขาว ตัดกันอย่างชัดเจน ทั่วทั้งลําต้น ต่างจากพุดทั่วไปที่มีใบเขียวอย่างเดียว จึงทําให้พุดซ้อนใบด่างมีราคาที่ค่อนข้างสูง มากกว่าพุดซ้อนธรรมดาทั่วไป โตเต็มที่จะสูงประมาณ 1-3 เมตร ลําต้นเรียว เปลือกเรียบ ผิวสีน้ําตาล แตกกิ่งก้านมาก ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่ ปลายใบเรียว โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ สีเขียวสลับตัดขาวเป็นมัน ส่วนดอกออกตามซอกใบตลอดทั้งปี สีขาวสะอาด กลิ่นหอมแรงตอนเย็นถึงเช้า ปลายดอกแยกซ้อนกันหลายชั้น มีผลสด รูปไข่ มีเมล็ดจํานวนมาก มักนิยมปลูกหน้ารั้วบ้าน หรือปลูกใส่กระถางวางหน้าบ้าน เมื่อมีดอกออกกลิ่นของดอกพุดจะหอมฟุ้งกระจายทั่วพื้นที่ที่ปลูก วิธีการดูแล ต้นพุดซ้อนใบด่างเจริญเติบโตค่อนข้างช้า ชอบดินร่วนที่อุดมสมบูรณ์และระบายน้ําดี ชอบแสงแดดจัดเต็มวันหรือกลางแจ้ง หากปลูกในที่ร่มจะไม่ค่อยออกดอก แต่ก็สามารถควบคุมได้ด้วยการให้น้ําและให้ปุ๋ย โดยต้นพุดซ้อนต้องการความชื้นปานกลาง ให้รดน้ําประมาณ 5-7 วัน/ครั้ง และต้องการปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 2-3 กิโลกรัม/ต้น หมั่นตัดแต่งทรงพุ่มบ่อย ๆ ส่วนโรคและแมลงไม่ค่อยพบ มีความแข็งแรง ทนทานดี อาจจะมีเพลี้ยสีขาวกวนใจอยู่บ้าง ทว่าสามารถป้องกันได้ด้วยการทําความสะอาดแปลงปลูกและกําจัดมดที่เป็นพาหะแพร่ระบาด